วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Woven top ว่ากันด้วยเรื่องของผ้าท่อนบน (ภาค 2 )


6.corduroy หรือผ้าลูกฟูก มีตั้งแต่เนื้อบางสำหรับทำ shirt ไปจนหนา สามารถทำกางเกง 5 pocket ,chino pant and slack ได้ ซึ่งผ้าตัวนี้จะจัดเป็นผ้า basic ก็ไม่เชิง เป็น fashion ก็ไม่ใช่ สำหรับบ้านเรา เลือกใช้เป็นบางโอกาส แต่ก็ไม่ถึงกับขาดหายไปจากวงจร อาจจะเป็นเพราะว่าเราเป็นเมืองร้อนก็ได้ แต่ถ้าเป็นแถบยุโรปหรือประเทศเมืองหนาวแล้วจัดได้ว่าเป็น basic ตัวหนึ่งเหมือนกัน
Design  มีตั้งแต่ shirt ไปจนถึง skirt man and woman ได้หมด
7.cotton yandyed check(ลายตารางหมากรุก), cotton yandyed stripe(ลายแถบหรือริ้ว) มีตั้งแต่ number 20 – 40 จะเป็นพวก outdoor wear,street wear หรือ business wear ก็ได้ทั้งนั้นจะต่างกันตรงที่ ถ้าเป็น street wear จะใช้ number 20 แต่ถ้าเป็น business wear จะใช้ number 32 หรือ 40 แต่การสั่งผ้าชนิดนี้มักจะมี ขั้นต่ำในการสั่งทอ แต่ถ้าคุณไม่มีกำลังจะสั่ง ก็สามารถสั่งผ้านำเข้าก็ได้ไม่ผิดกติกา ขอเพียงมันเข้ากับ concept ของคุณได้ก็พอแล้ว
Design outdoor wear,street wear หรือ business wear
8.cotton print ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีกำลังในการสั่งพิมพ์หรือไม่ถ้าคุณมีก็สามารถเลือกผ้า ชนิดของการพิมพ์ และ concept ของคุณ ในแต่ละ collection นั้นๆ ส่วนรูปแบบก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำสายไหน street wear หรือ business wear
ส่วนผ้าตัวอื่น ๆ rayon linen polyester t/r etc. ที่ไม่เขียนถึงก็เพราะว่าไม่ได้ใช้กันเป็นประจำ แต่ใช้กันเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขึ้นอยู่กับ concept and collection ของคุณ ซึ่งคุณสามารถค้นคว้าเองได้หากสนใจ
สำหรับโครงสร้างผ้านั้นก็คงจะว่ากันเพียงเท่านี้ บทความต่อไปก็อาจจะมีเรื่องประสบการณ์การทำงานมาเล่าสู่กันฟัง ก่อนที่จะมาว่ากันด้วยเรื่องของการออกแบบ(design) กันต่อซึ่งอาจจะทำเป็นแบบภาพสเก็ตซ์ แบบต่าง ๆมาให้ดู
ขอระบายสักหน่อย ผู้เขียนขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้ผู้เขียนไม่อาจกล่าวว่าตนเองเป็นกูรูหรือผู้รู้มากมายอะไรนัก เพียงแค่หวังว่ามันจะเป็นแนวทางในการแนะนำสำหรับใครก็ตามที่คิดจะเข้ามาทำงานในสายนี้ และก็คงยังมีสิ่งใหม่ๆมากมายที่ผู้เขียนยังไม่รู้ หวังว่ามันคงเป็นประโยชน์บ้างกับใครก็ตามที่เข้ามาเยี่ยมชม หากคุณต้องการอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับงานสายนี้ในด้านไหน ก็ตามลองโพสต์คำถามทิ้งไว้ ผู้เขียนก็จะพยายามหามาคำตอบมาให้จงได้ หรือจะโทรคุยกันได้โดยตรงที่ เบอร์ 084-8340038 ของเป็นหลังสองทุ่มครึ่งนะครับเพราะกลางวันต้องทำงาน และก่อนที่จะโทรมาช่วยส่ง message มาก่อนจะดีมากเพราะผู้เขียนไม่นิยมชมชอบรับเบอร์แปลก ๆ 

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Woven top ว่ากันด้วยเรื่องของผ้าท่อนบน (ภาค 1 )


Woven top (ผ้าสำหรับทำท่อนบน) โครงสร้างที่ทออาจจะมีหลายโครงสร้าง แต่เส้นด้ายที่ใช้ในการทอก็ไม่พ้น number 20,32,40 สามชนิดนี้ (ขนาดเส้นด้ายจะเรียกเป็น number )
Woven top ที่ใช้กั้นอยู่ประจำมีดังนี้
1.cotton twill
2.popplin
3.canvas
4.pique
5.oxford
6.corduroy
7.cotton yandyed check, cotton yandyed stripe,
8.cotton print

1.cotton twill number 20,32,40 ตัว number 20 จัดว่าเป็นตัวที่หนาที่สุด มักจะทำเป็น style outdoor wear,street wear,adventure wear, อย่างเช่น brand camel สำหรับ ด้าย number 32 ,40 ส่วนใหญ่แล้วจะทำเป็นเสื้อ business wear แต่ถ้าคุณทำแบบในลักษณะ business wear ก็ขอแนะนำให้ใช้ number 40 จะดีกว่า เพราะความละเอียดและความเนียนของเนื้อผ้าจะดีกว่าเพราะราคาก็ไม่แตกต่างกันมาก เวลาเย็บ ทั้งสาม number ของด้ายชนิดนี้ สามารถเย็บได้ทั้งตะเข็บคู่และตะเข็บเดี่ยว
Design outdoor wear,street wear,adventure wear,
2.popplin จัดได้ว่าเป็นตัวหนึ่งที่สามารถนำไป ดีไซน์ได้ ตั้งแต่คิดแวร์ ไปจนถึงผู้ใหญ่ และ ยังสามารถนำไปพิมพ์ได้หลายแบบ ทั้งพิกเม้นและโรลเลอร์ เพราะด้วยความเป็นผ้าเนื้อเรียบจึงสามารถนำไปพิมพ์ได้หลายแบบ ส่วนจะเลือกใช้แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับ คอนเซ็บในคอลเล็กชั่นนั้น ๆ สามารถเย็บได้ทั้งตะเข็บคู่และตะเข็บเดี่ยว
Design kids wear,man wear,woman wear
3.canvas เป็นโครงสร้างที่ค่อนข้างหลวมเนื้อผ้าไม่แน่นเหมือน cotton  กับ poplin ดังนั้นในการออกแบบจึงควรเลือกใช้การเย็บแบบตะเข็บคู่ดีกว่าตะเข็บเดี่ยว
Design ส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบ ประเภท style outdoor wear,street wear
4.pique ป็นการทอลักษณะยกร่องนูน ทำได้ตั้งแต่ outdoor wear ไปจนถึง business wear ใช้การเย็บแบบตะเข็บคู่ดีกว่าตะเข็บเดี่ยว ผ้าตัวนี้สามารถพิมพ์ได้เฉพาะการพิมพ์ในระบบ Richard ถ้าพิมพ์ในระบบอื่นคงลำบาก
5.oxford เป็นอีกโครงสร้างที่การทอค่อนข้างหลวม มีทั้งแบบ normal และแบบ peach skin ดังนั้นในการเย็บจะใช้ตะเข็บแบบไหนก็ควรดูว่าโครงสร้างผ้านั้นหลวมมากน้อยแค่ไหน ผ้า oxford ตัวนี้ สามารถออกแบบได้ทั้งแบบของผู้ชายและผู้หญิง มีทั้งเชิ้ตแขนสั้นแขนยาวและแขนกุดผู้หญิง ยี่ห้อที่ทำเกือบประจำ คือ ยี่ห้อ polo และพวก business wear ทั้งหลาย
Design man and woman wear

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

cotton twill


ไหนๆ ก็พูดถึง denim ที่เป็นท่อนล่างแล้ว ผู้เขียนก็ขอพูดถึงผ้า woven ที่ใช้สำหรับทำท่อนล่าง โครงสร้างผ้าที่ใช้สำหรับ mass product มักจะใช้กันอยู่ไม่กี่โครงสร้าง เพราะสะดวกในการสั่งซื้อและไม่ติด minimum ในการสั่งทอและการย้อมเพราะทางโรงงานจะทอผ้าพวกนี้เป็นประจำอยู่แล้วและยังมีสีให้เลือกใช้ได้มากมายพอสมควร สามารถสั่งได้ตั้งแต่ 300 – 1000 yard หรืออาจจะน้อยกว่านี้ก็ได้ถ้าสั่งทีละ 1 พับ(ประมาณ 50 – 60 yard) แต่ถ้าจะสั่งสีเฉพาะการออกแบบของคุณก็ต้องไม่ต่ำกว่า 10,000 หลาขึ้นไป แต่ผู้เขียนคิดว่าคงไม่จำเป็นเพราะสีของผ้าสำหรับการทำท่อนล่างนั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นสี basic เช่น สีดำ กรมท่า สีกากี เขียวขี้ม้า หรือบางช่วงอาจจะมีสีที่พิเศษเกิดขึ้นในช่วงนั้น เช่น สีชมพู แดง เหลือง ทางโรงทอก็มักจะทำออกมาอยู่แล้ว เรามาเริ่มกันที่กลุ่ม cotton twill ก่อนก็แล้วกัน
1.7x7 cotton twill มีทำทั้งแบบ normal และแบบ peach skin (ขูดขน) ส่วนรูปแบบสำหรับโครงสร้างผ้านี้ได้แก่ ทรง 5 pocket ก็ pattern เดียวกับ denim ทรง regularกับ relax fit รวมทั้งใช้ accessory ตัวเดียวกัน แถมต้นทุนยังถูกกว่า เพราะไม่ต้องเสียค่าฟอก โดยเฉพาะตัว peach skin แต่ก็ต้องพึงระวัง ถ้าคุณสั่งตัว peach skin ที่เป็นสีดำ กรมท่า กากี ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นสีขาวที่ผ่านการขูดขนแล้ว เวลาตัดเป็นตัวส่งไปตามร้านค้า เวลาแขวนหรือว่าพับไว้ ฝุ่นมักจะเกาะง่ายและเห็นได้ชัด สำหรับผู้เขียนแล้วถ้าหากต้องสั่งสีขาวมักจะสั่งแบบ normal แล้วส่งฟอกแบบนุ่มพิเศษ เพื่อเลี่ยงการเกาะของฝุ่น และข้อควรระวังอีกอย่างก็คือ การสั่งผ้าแต่ละครั้ง ควรเช็คการหดของผ้าด้วยว่ายังเท่าเดิมอยู่หรือเปล่า ถ้ายังเท่าเดิมอยู่ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหดมากกว่าที่เป็นมา ก็ปรับแต่ง pattern ตามความเหมาะสม
2.10x10 cotton twill โครงสร้างและการทอของผ้าตัวนี้ ไม่ต่างกับ 7x7 จะต่างกันที่ 10x10 บางกว่าเท่านั้น(โครงสร้างผ้า cotton สำหรับทำท่อนล่าง เบอร์ยิ่งน้อย แต่เส้นด้ายจะใหญ่ ส่วนเบอร์ยิ่งมากเส้นด้ายจะเล็กตามลำดับ แต่ถ้าเป็นผ้าสำหรับทำท่อนบน เบอร์น้อยที่สุดก็คือเบอร์ 20 เส้นด้ายนั้นจะหนามาก และจะบางลงตามจำนวน เบอร์ที่มากขึ้น เช่น เบอร์ 32,40จะบาง)รูปแบบสำหรับโครงสร้างผ้านี้ มักจะทำเป็น 5 pocket สำหรับผู้หญิง รวมทั้ง jacket อีกทั้งยังสามารถออกแบบเป็น 5 pocket สำหรับเด็กได้อีกด้วย เช่นเดียวกันผ้าตัวนี้ มีทั้ง normal และ peach skin
3.12x12 cotton twill จัดได้ว่าเป็นผ้าที่บางที่สุดของผ้าโครงสร้างนี้ มักจะทำเป็นผ้าใช้สำหรับชุด fashion เด็กและผู้หญิง มีตั้งแต่ 5 pocket, jacket, dress, short skirt
4.20x16 cotton twill เป็นการใช้ เส้นด้าย no.20 กับ no.16 ทอตัดกันตามแนวตั้งและแนวขวาง ทอเป็นลาย twill จะมีทั้งแบบ normal และ peach skin ตัวที่เป็น normal สามารถนำส่งฟอกได้ เพื่อให้เกิด texture ของการฟอกได้ด้วย โครงสร้างผ้าตัวนี้จัดได้ว่าเป็น basic อีกตัวหนึ่ง รูปแบบที่ใช้ มีตั้งแต่ 5 pocket, chino pant, jacket รวมทั้งขาสั้นด้วย ไม่ขอแนะนำให้ทำเป็นกระโปรงผู้หญิงเพราะผ้าค่อนข้างหนัก แต่ถ้าเป็นกระโปรงสั้นก็ ok
5.20x20 cotton twill โครงสร้างผ้าตัวนี้ ใกล้เคียงกับ  20x16 แต่จะบางกว่าเล็กน้อย มีทั้ง normal และ peach skin รูปแบบที่ใช้ มีตั้งแต่ 5 pocket, chino pant, jacket, slack, short skirt, long skirt, short pant ใช้ได้ทั้งเด็ก ผู้ชาย และผู้หญิง
6.canvas ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงผ้าใบพวกวาดรูปแล้วกัน ส่วนใหญ่มักจะทำเป็นทรงกางเกง 5 pocket, chino pant, jacket, short pant, dress, skirt ส่วนใหญ่โครงสร้างผ้าจะเป็น normal ไม่นิยมทำแบบ peach skin สามารถส่งฟอกได้ แต่จะฟอกได้ เช่น water wash, sand wash, chemical wash, ency cilicone แต่ถ้าเป็น stone wash ไม่ขอแนะนำ
ยังมีโครงสร้างผ้าอีกมากมายที่ผู้เขียนไม่ได้เอ่ยถึง เช่น linen หรือผ้าที่ผสม polyester แต่ไม่ขอพูดถึงเพราะผ้าพวกนี้ในวงการ mass product ไม่นิยมใช้ นอกจากจะเป็นที่นิยมจริงๆ ในช่วงนั้นจึงจะนำมาใช้กัน จะด้วยต้นทุนที่สูงหรือจำนวนในการสั่งทำก็ตาม แต่ผ้าที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นตั้งแต่ denim จนถึง canvas ถ้าคุณศึกษาคุณสมบัติของผ้าแต่ละชนิดให้ดีแล้ว ถ้าคุณสามารถออกแบบให้เหมาะสมกับคุณสมบัติโครงสร้างผ้านั้นๆ แล้วรับรองว่าผ้าที่มีอยู่ก็พอแล้วในการออกแบบ เพราะผ้าพวกนี้นอกจาก จะออกแบบ เป็นกางเกง skirt, jacket ได้แล้ว ผ้าพวกนี้ยังสามารถนำมาออกแบบเป็น accessory ได้ เช่น เป็นหมวกแก๊ป หมวกตกปลา กระเป๋าสะพาย รองเท้า ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของคุณ ว่าต้องการจะพัฒนามันไปได้แค่ไหน หวังว่าคุณคงได้สนุกกับการออกแบบกับโครงสร้างผ้าที่ได้กล่าวมาแล้ว 

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

denim pattern


ก่อนที่จะพูดถึงโครงสร้างผ้าตัวอื่น ผู้เขียนขอพูดถึงกางเกง 5 pocket ซึ่งถือได้ว่าเป็น basic ของผ้า denim โดยแบ่งตามรูปทรงออกเป็น 4 pattern ดังนี้
1.Fitted กางเกงทรงรัดรูปจนไม่มีช่องว่างไว้ให้หายใจ ประเภทเด็กแนวชอบแต่ขัดใจแม่ว่างั้น จะเข้าห้องน้ำแต่ละทีก็ช่างถอดยากเย็นเสียเหลือเกิน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบในหมู่วัยรุ่นและเด็กแนวทั้งหลาย ซึ่งทรงนี้ก็เป็นที่นิยมกันมากเมื่อไม่นานมานี้ สักประมาณ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้นเรียกกันว่า ทรงเดฟ จะต่างกันตรงที่สมัยก่อนนั้นทรงเอวสูงแต่ปัจจุบันต้องเอวต่ำเท่านั้น(ก็ไม่รู้ว่าจะต่ำไปถึงไหนประมาณว่าแค่คืบก็ถึงแล้ว)ผ้าที่ใช้ก็มีทั้ง denim normal,spandex denim การฟอกก็ขึ้นอยู่กับความต้องการหรือแฟชั่นในขณะนั้น ส่วนที่ผู้เขียนใช้ประจำก็จะเป็นตัว 12-14 oz. ส่วน pattern ก็ขอแนะนำให้ไปค้นหาจาก brand inter แต่ว่ากางเกง 5 pocket ประเภทนี้บางช่วงก็อาจจะหายไปจากวงจรเลยก็มี
2.regular fit จัดได้ว่าเป็น basic ตลอดกาลของผ้า 5 pocket หรืออาจจะเรียกว่าทรงกระบอกเล็กก็ได้  ถ้าคุณยังไม่อาจนึกเห็นภาพได้ก็ขอให้นึกถึง levie’s 501 นั่นแหละ ถือได้ว่าเป็นตัวพระเอกตลอดกาลเลยสำหรับทรงนี้ ถ้าคุณต้องการทำ 5 pocket basic ก็ขอแนะนำว่าให้ซื้อ levie’s 501 มาก็อปเลย(เฉพาะ pattern ไม่งั้นอาจโดนฟ้องได้จ้า) เพราะว่าถ้าคุณสามารถ ทำ pattern ให้นิ่งได้แล้วคุณก็ไม่ต้องไปทำอะไรกับมันอีก ดังนั้นคุณควรจะต้องศึกษาให้ละเอียดว่า curve เอว เป้าหน้า เป้าหลัง สะโพก แล้วต้องมั่นใจว่าต้องออกมาเหมือนต้นฉบับเป๊ะ ๆ เลยนะก๊าบ เพราะว่าถ้าเพี้ยนไปแล้วนอกจากผิดรูปทรง จะทำให้สวมใส่ไม่สบายตัวอีก ถ้า pattern ให้นิ่งแล้ว คุณสามารถผลิตขายได้ตลอดโดยไม่ต้องทำอะไรกับมันอีกเลย ส่วนแบบและการฟอกนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะออกแบบกระเป๋า กระดุม หรือว่าการ tracking ตัวหนอน ก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการอันบ้าบอของคุณหรือเจ้านายคุณก็แล้วกัน แต่ต้องมั่นใจว่ามันสามารถจะยืนหยัดเป็น basic โดยไม่ต้องกลับไปยุ่งกับมันอีกนาน ส่วนผ้าที่ใช้ ก็คือ 14 oz. denim รวมทั้ง 7x7 cotton twill
3.relax fit หรืออาจจะเรียกว่าทรงกระบอกใหญ่ก็ได้ ซึ่งความต่างระหว่าง regular fit กับ relax fit ก็คือ relax fit จะหลวมตั้งแต่สะโพกจนถึงปลายขา ส่วน pattern ดี ๆ ก็มีหลาย brand ไม่ว่าจะเป็น levie’s ,clavin kline, guess ,Armani etc. ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะชอบของใคร ที่ผู้เขียนแนะนำแบบนี้ก็เพราะ brand เหล่านี้ ได้คิดค้นมาอย่างดีแล้วในเรื่องของรูปทรงและ pattern อย่าเสียเวลาทำ pattern เองเลย ส่วนรูปแบบรวมทั้งการฟอกก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว ผ้าที่ใช้จะเป็น 14 oz. denim ,7x7 twill
4.giant fit ถือได้ว่าเป็นทรง fashion จัดได้ว่าเป็นสีสันก็แล้วกัน รูปทรงกางเกงก็ประเภท ทรงหลวมตัวใหญ่โคร่งที่พวกเด็กแร็ปหรือ b-boy นั่นแหละชอบใส่กัน รูปแบบและรูปทรงขึ้นอยู่กับคุณว่าต้องการแบบไหน จะใช้กระเป๋ามากกระเป๋าน้อยขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับ concept นั้น หรือจะใช้ concept จาก brand ดัง ๆ ก็ได้ ส่วนผ้าที่ใช้ก็ตั้งแต่ 12-14 oz.
ส่วนรูปทรงอื่น เช่น easy pant หรือ สามส่วน และกางเกงขาสั้น ผู้เขียนไม่ขอกล่าวถึงเพราะรูปทรงหรือว่ารูปแบบไม่ได้ตายตัวขึ้นอยู่กับ trend แต่สิ่งสำคัญสำหรับกลุ่ม basic คุณต้องออกแบบให้ลงตัวที่สุด รวมทั้งการจะใช้ป้ายหนังหรือป้ายปาเก็น จะใช้ซิปหรือว่ากระดุม จะเป็น levet แบบไหน ขอให้คิดให้ลงตัวที่สุด เช่น ถ้าเป็นตัว relax จะใช้ป้ายปาเก็นหรือป้ายหนังจะเป็นซิปหรือกระดุม หลังจากสรุปได้แล้วก็ให้นิ่งอยู่ตรงนั้นห้ามเปลี่ยนแปลงอีกเพื่อเป็นการควบคุมต้นทุนรวมทั้งสะดวกต่อการสั่ง accessory ในครั้งต่อไป