วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ว่าด้วยเรื่องของผ้า knit (ผ้าถักหรือที่เรียกว่าผ้ายืดโดยทั่วไป) ภาคสอง

         1.5 Rib 1x1 (เส้นด้ายเบอร์ 32)หมายถึงผ้าที่ทำการทอโดยการชักร่องของเส้นด้าย หนึ่งต่อหนึ่งช่อง ผ้าชนิดนี้ก็พวกใช้ทำเป็นช่วงคอของเสื้อยืดคอกลมหรือคอวี หรือไม่ก็ทำขอบแขน อย่าได้ริอาจสาระแน นำผ้าชนิดนี้ ไปออกแบบทำเสื้อหรือกางเกงโดยเด็ดขาด
           1.6 Rib 2x2(เส้นด้ายเบอร์ 20) หมายถึงการชักร่องของเส้นด้าย สองต่อสองนะคล้ายกันกับแบบแรก น้ำหนักมาตรฐานของผ้าชนิดนี้จะอยู่ที่ประมาณ 165-175 gram/sqm  ซึ่งจะนำไปออกแบบทำเสื้อรัดรูปทุกชนิด  และถ้าต้องการให้มีการยืดหยุ่นหรือการสปริงตัวเพิ่มมากขึ้น เวลาที่เราจะสั่งผ้ามาทำก็อาจจะใช้เส้นด้าย spandex (เส้นด้ายสำหรับไว้ทำชุดว่ายน้ำ) ผสมเข้าไปด้วยอีกเส้นก็ได้ เพื่อเพิ่มการสปริงตัวของผ้าให้ดีขึ้นแต่ราคาก็จะสูงขึ้นเท่าตัว โดยสั่งไปที่โรงงานทอผ้าได้เลย(ดังนั้นเวลาจะสั่งผ้าชนิดนี้สั่งว่า Rib 2x2 spandex  one way) จะเอากี่โลก็ว่ากันไป (ผ้าสำหรับผลิตทีละเยอะๆ เขาสั่งกันเป็นกิโลนะจ๊ะ)
           1.7 ผ้า 32/1,20/1 Spandex (two way) โครงสร้างผ้าชนิดนี้จะประกอบด้วยเส้นด้าย cotton 100 % ผสมกับเส้นด้าย spandex สามารถทำลายพิมพ์บนผ้าเลยก็ได้หรือผ้าพื้นธรรมดาก็ได้ เหมาะสำหรับทำเสื้อรัดรูปหรือ Body suit (ชุดว่ายน้ำ) กางเกงรัดรูปทั้งขาสั้นยาว หรือ dress รัดรูป หรือเสื้อผ้ารัดรูปแบบอื่น ก็ได้ ซึ่งคุณสมบัติที่ดีของผ้าชนิดนี้คือสามารถยืดได้ทั้งด้านกว้างและด้านยาว
           1.8 Top dyed คือผ้าที่ทอด้วยเส้นด้ายที่จะออกเป็นกระไม่ใช่สีเดียวกันทั้งเส้น แต่ก็ทอผ้าเป็นแบบ knit ซึ่งจะแตกต่างจากเนื้อของ cotton single jersey ตรงที่ว่าตัว single jersey การ peach dyed ส่วนตัว top dyed นั้นเส้นด้ายจะออกสีกระผ้าก็ออกมาสีกระทั้งตัว ซึ่งโครงสร้างจะไม่ต่างจาก single jersey นักเพราะเส้นด้ายจะใช้เบอร์ 32/1,20/1 เหมือนกัน แต่จุดเด่นคือไม่ต้องย้อมสีอีก ซึ่งก็ทำออกมาทุกสีนั่นแหละแต่ว่าสีที่นิยมทำตัวนี้คือสีเทาอ่อนจนถึงเทาเข้ม เหมาะในการใช้ออกแบบT-shirt ในกลุ่ม basic colour นอกจากจะเป็น cotton 100 % แล้วยังมีโครงสร้างที่เป็น t/c อีกด้วยแต่ทั้งนี้ผมไม่แนะนำให้นำมาใช้เพราะระบายอากาศไม่ค่อยดีทำให้ร้อนมากไม่เหมาะสำหรับประเทศเมืองร้อน แต่เมืองหนาวเขาทำกันตรึม
เรื่องของผ้าแบบ jersey นั้นคงว่ากันเพียงเท่านี้ นี่เป็นเพียง basic เท่านั้นนะจ๊ะ ที่ชาวเหล่า fashion designer แบบลูกจ้างทำเสื้อผ้าออกมาขายทีละเยอะๆ หรือพวก mass product เขาทำกันนั่นเอง แต่หากเป็นประเภท ห้องเสื้อ(boutique) หรือ brand ดังๆ ก็จะใช้ผ้าที่ดีกว่าที่กล่าวมาแล้วก็ได้แต่ผมเท่าที่เคยได้ทำมาในสารบบของ mass product แล้ว ใช้ผ้า jersey  เพียงแค่นี้ ก็เหลือจะทำแย้ว

3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ได้ความรู้เพิ่มมากเลยตะ ขอบคุณคะ ^^

wolfgang กล่าวว่า...

คำขอบคุณนี่แหละที่ทำให้คนเขียนภาคภูมิใจเป็นที่สุด ขอบคุณจริง ๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณน่ะครับขอให้เจริญรุ้งเรืองน่ะครับ

แสดงความคิดเห็น